ทางเลือกของคนที่จำนองไม่ได้ แต่ต้องการเงินก้อนกับการ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน 

ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน

การจำนองบ้านและที่ดินกับธนาคาร ก็คือการยื่นขอกู้เงินกับธนาคารโดยที่นำบ้านและที่ดินไปค้ำ แต่ก็มาพร้อมกับปัจจัยที่ค่อนข้างยุ่งยาก อีกทั้งยังมีระยะเวลาในการตรวจเช็กที่ค่อนข้างยาวนาน ข้อมูลที่ใช้ในการตรวจเช็ค เช่น ความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้, ติดเครดิตบูโรไหม หรือ สเตทเมนท์สวยหรือเปล่า และจากการตรวจเช็กอย่างละเอียดยิบนี้เอง จึงทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถขอกู้เงินจากธนาคารได้ด้วยวิธีจำนอง จึงเป็นที่มาของทางเลือกอย่างการ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน 

การ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน คืออะไร 

การ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน คือ การทำนิติกรรมการ ซื้อ – ขาย บ้าน รูปแบบหนึ่ง ที่มาในลักษณะของการ “กู้ยืม” โดยมีบ้านและที่ดินบริเวณรอบบ้านเป็นตัวค้ำประกัน โดยที่กรรมสิทธิ์ของบ้าน จะตกเป็นของผู้ซื้อหรือ “ผู้รับขายฝาก” ทางด้านผู้ขายสามารถนำเงินมาไถ่ถอน หรือ “ซื้อบ้านคืน” ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ระยะเวลาสูงสุดที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยคือ 10 ปีต่ำสุดคือ 1 ปี  

การ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน อีกหนึ่งช่องทางในการกู้เงินก้อน ที่ง่ายกว่าการจำนองกับธนาคารมาก  

เพราะผู้ที่เคยติดแบล็คลิส เคยผิดนัดชำระหนี้กับธนาคาร หรือแม้กระทั่งไม่มีประวัติการเดินบัญชี หรือประวัติการทำธุรกิจใด ๆ ก็สามารถขอวงเงินกู้ได้ แต่การกู้จำนองกับธนาคารแค่เคยติดแบล็กลิสก็ไม่ได้แล้ว หรือประวัติการณ์เดินบัญชี หรือประวัติการกู้ยืมขาวสะอาดมากจนเกินไปธนาคารก็จะไม่อนุมัติ เพราะว่าไม่เคยเห็นประวัติในการผ่อนชำระนั่นเอง  

แต่การ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน กับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ จะสามารถกู้เงินก้อนผ่านได้ง่ายกว่ามาก เพราจะพิจารณาเพียง ทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันเท่านั้น เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด อาคารพาณิชย์ และอื่น ๆ ถ้ามีจริง และชื่อของผู้ยื่นกู้กับชื่อบนโฉนดเป็นชื่อเดียวตรงกัน ก็สาารถนำมาขายฝากได้แล้ว และจะประเมินวงเงินขายฝากจากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ อย่างตรงไปตรงมาตามราคากลางที่เกิดขึ้นจริงในเวลานั้น ด้วยการคิดดอกเบี้ยที่ต่ำ และดอกเบี้ยถูกกว่าสินเชื่อบางประเภทของธนาคารซะอีก และระยะเวลาในการอนุมัติใช้เวลาเพียง 1 – 7 วันเท่านั้น   

ทำให้การ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ของผู้ที่ต้องการเงินก้อนแบบฉุกเฉิน และไม่อาจจำนองบ้านกับธนาคารได้ ซึ่งมีข้อดีอีกข้อหนึ่งที่เราอยากแนะนำก็คือวงเงินกู้ที่ผู้ขายฝากจะได้รับ จะให้สูงสุดอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าทรัพย์เลยทีเดียว ส่วนการจำนองยอดเงินกู้จะเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นก็มีข้อควรระวังคือจะต้องเลือกขายฝากกับนักลงทุน หรือบริษัทที่ไว้ใจได้จริง ๆ เท่านั้น